Singularity เป็นเกมที่โฆษนาว่าผู้เล่นจะย้ายไปมาระหว่างเวลาแล้วความแตกต่างในอดีตจะมีผลต่อปัจจุบันด้วย
เอาจริงๆแล้วใช้เป็นเครื่องมือในการดำเนินเรื่องมากกว่า เพราะมีให้ใช้แบบค่อนข้างบีบบังคับ
[เรื่อง 3/5] - เนื้อเรื่องของ Singularity เราเล่นเป็นทหารอเมริกันในปี 2010 ไปบุกเกาะร้างนอกชายฝั่งแอตแลนติกที่พวกโซเวียตใช้เป็นศูนย์วิจัยธาตุ "E99" แล้วเกิดอุบัติเหตุจนต้องละทิ้งเกาะไปในปี 1955 แล้วคนที่เหลืออยู่บนเกาะก็ได้รับผลข้างเคียง กลายเป็นสัตว์ประหลาดโซเวียตหน้าตาน่าเกลียดน่ากลัว แล้วคุณพระเอกก็ไปได้พลังพิเศษสามารถเสกสิ่งของและสิ่งมีชีวิตในเกมให้เก่างั่กหรือจะใหม่เอี่ยมได้ (อะไรเทือกนั้น)
เนื้อเรื่องตอนเริ่มของ Singularity เริ่มตอนที่เราเผลอตกหลุมเวลาไปโผล่ในปี 1955 แล้วไปช่วยลุงหนวดชาวโซเวียตคนนึงไว้ แล้วเราก็ย้อนกลับมายุคปัจจุบัน กลายเป็นว่าอีตาลุงนั่นกลายเป็นโคตรฮีโร่ของโซเวียต แล้วก็ทำการยึดครองโลก กลายเป็นผู้นำโลก (ขนาดรูปปั้นสตาลินยังกลายเป็นรูปปั้นลุงหนวดคนนั้นเลย) คุณพระเอกแสนดีก็เลยต้องหาทางกลับไปแก้อดีตให้ได้
ใน Singularity มีนางเอกที่ไม่ค่อยมีบทด้วย (หายไปตอนกลางๆเกม แล้วก็แว้บๆมาอีก) แต่หน้าตาเฉี่ยวดี พอให้อภัยได้ ส่วนตัวละครอื่นๆก็มีไม่ค่อยมาก แล้วก็ไม่ค่อยน่าจดจำนักเท่าไหร่ด้วย
ตัวเกมยาวประมาณ 4-5 ชั่วโมงก็เล่นจบ ไม่ยากมาก มีบอสประมาณ 3-4 ตัว แต่ไม่มีบอสใหญ่ แล้วก็มีฉากจบให้เลือกชมสามแบบ (เท่าที่นั่งเลือกมานะ)
ถ้าลองเปลี่ยนคำว่า "สัตว์ประหลาดโซเวียต" เป็น "ผีนาซี" แล้วก็ "พลังมิติลี้ลับ" เป็น "พลังกาลเวลา" แล้วก็ "เกาะโซเวียต" เป็น "เมืองเยอรมัน" นี่ก็กลายเป็นเกม Wolfenstein ภาคล่าสุดเลย อ้อ ผู้พัฒนาเดียวกันด้วยนะจ๊ะ พระเอกเป็นทหารอเมริกันได้พลังเทพมาเหมือนกัน บรรยากาศในเกมก็คล้ายๆกัน แหมๆ
[ภาพ 3.5/5] - เกม Singularity ใช้ Unreal Engine 3 แบบเดิมๆ ลื่นดี พวกบรรยากาศและเท็กซ์เจอร์นี่แทบจะเอามาจาก Wolfenstein เลยทีเดียว (แต่อันนั้นใช้ id Tech 4 ที่เป็นคู่แข่ง Unreal Engine 3) แสงสีสวยงามตระการตา
[เสียง 3/5] - เสียงพากย์ใน Singularity ถือว่าดีได้มาตรฐาน เสียตรงที่เพลงประกอบเฉยๆมาก แล้วก็แอบมีช็อตที่หลอกให้เราเร่งลำโพงดังๆ แล้วมีศพโผล่ควับออกมา พร้อมเสียงตกใจมาตรฐานหนังผีตกใจ (ความจริงเป็นบั๊กนะ ที่เสียงมันเงียบ ต้องออกมาปรับใน Windows Mixer)
[ระบบ 4.5/5] - ถึงระบบกาลเวลาใน Singularity จะแอบน่าผิดหวังนิดหน่อย (เทียบกับตอนที่เขาโฆษนาเสียดิบดีน่ะนะ) แต่ระบบอื่นๆในเกมทำออกมาได้ค่อนข้างดี ทั้งระบบอาวุธปืน (ยึงเลือดสาด ชิ้นส่วนกระจาย) แล้วอาวุธพิเศษ (เปลี่ยนอายุสิ่งของ ย้ายของ ระเบิดพลัง เอ่อ... ทำให้เวลาช้าลง ฯลฯ) ก็เทพดี แล้วก็ตัวเกมนี้แทบไม่ต้องใช้บทสรุปยกเว้นตอนที่ต้องมาแก้ไขปริศนา (ยกกล่อง กระโดดขึ้นกล่อง กดสวิทช์ บลา บลา) เพราะเกมนี้มีระบบกดพลังดูรอยเท้าได้ว่าต้องวิ่งไปทางไหนต่อ -_-
อ้อใช่ แล้วก็ Singularity มีปืนสุดยอดด้วย แบบว่ายิงออกไปแล้วคุมวิถิกระสุนได้!!!
[รวม 3.5/5] - ถือว่าสนุกดี เล่นขำๆฆ่าเวลาตอนรอ Half Life 2: Episode Three ถ้าใครชอบเล่น Wolfenstein แล้วก็คงจะชอบ Singularity พอสมควรเลยล่ะ
โหลดมาวันเดียว เล่นจบ ลบทิ้ง เช่นเดิม :3
ปล. รีวิว Singularity นี้เฉพาะประสบการณ์ตอนเล่นคนเดียวเท่านั้น ไม่ได้เล่นแบบหลายคน เพราะฉะนั้นเล่นหลายคนสนุกไม่สนุกก็ไปเล่นเองนะฮะ
ขอให้สนุกกับการเล่นเกมจ๊ะ
ssd
ริวิวห่วยแตก แต่ล่ะประโยคเหมือนเชิง “ประชดอะไรซักอย่าง” ไม่ได้ให้ข้อมูลความเข้าใจซักนิด เรื่องดำเนินเรื่องหาอ่านเองได้อยู่ อันนี้พอเข้าใจ ผมไม่ได้อยากรู้เลย ไอ้.. บลา บลา -_- เอ่อ.. หน้าตาเฉี่ยว โหลดมาวันเดียว เล่นจบ ลบทิ้ง เช่นเดิม? ก็เทพดี?ไห้อภัย? อะไร? บ้าเหรอเปล่า(เกียดข้อความประกอบ อ่านแล้วรำคาญ)
รีวิวมีไว้ไห้มันน่าเล่นขึ้น แต่ทำไห้มันแย่ลงซะงั้น กรรม!!
พฤติกรรมการรีวิว แย่มาก
than
เข้าใจอะไรผิดรึเปล่าคุณ? สำหรับผม การรีวิวคือ “การประเมิน” นะฮะ ไม่ใช่ “การโฆษนา”
ผมเล่นแล้วรู้สึกยังไงผมก็เขียนไปอย่างนั้นครับ ไม่ได้มีจุดมุ่งหมายให้ใครอยากเล่นเกมมากขึ้นหรือน้อยลงครับ
เอาจริงๆถ้าอ่านแล้วไม่ชอบก็อย่าอ่านครับ ไปอ่านของที่เขาเขียนแนว “โชว์ฟีเจอร์” ดีกว่า ผมเขียนแนว “วิพากษ์วิจารณ์” ครับ
แต่ก็ขอบคุณสำหรับคำติชมนะฮะ ผมก็จะเขียนแบบนี้ต่อไป 🙂
ssd
ควย
art
ผมกลับชอบการ review แบบตรงไปตรงมาแบบนี้มากกว่า ดีก็ว่าดี ไม่ดีก็ว่าไม่ดี แต่ถ้าจะเป็นแนวโชวฟีเจอร์อะไรพวกนั้นน่าจะเป็น Preview มากกว่า แต่ปรับปรุงการใช้ภาษานิดนึงก็ดีครับ พวกข้อความที่เป็นศัพท์สแลง ใส่พอเป็นน้ำจิ้มดีกว่าไปเยอะมันก็น่ารำคาญเหมือนกัน
—- spoy —–
สำหรับเกมส์นี้ผมเล่นเพิ่งจบเหมือนกัน พอดีผมไม่เคยเล่น Wolfenstein แต่ความรู้สึกผมเหมือน Fallout 3 แต่ว่าเนื้อเรื่องเป็นแบบทางเดียว เน้นการเดินยิงมากกว่า บอสเหมือนเกมส์ยิงผีดิบตามตู้เกมส์เลย ที่ยิงให้โดนจุดอ่อนของแต่ละตัว ดูแล้วเหมือนเกมส์โบราณยังไม่รู้ แต่ถ้าไม่คิดมาก มันก็สนุกดี แต่ผิดหวังนิดนึงตรงที่ว่า ตอนจบนึกว่าจะบอสใหญ่มาให้จัดการ กลายเป็นว่า วิ่งไปวิ่งมา แล้วก็จบซะงั้น
ส่วนความสามารถย้อนเวลาหรือ ดูดวัตถุ ก็ทำได้กับวัตถุบางชิ้นเท่านั้น ทำให้หมดความท้าทายไป เพราะเหมือนเป็นสคริปอยู่แล้วว่าต้องทำอะไรต่อไป อาจจะมีข้อดีที่ว่าทำให้ไม่หลงทางแต่มันดูเป็นเกมส์โบราณไปหน่อย ส่วนวัตถุบางอย่าง ก็ไม่รู้จะให้มันมีปฏิสัมพันธ์ทำไม เช่น พวกโคมไฟ กล่องกระดาษ เก้าอี้ สามารถดูดขึ้นมาได้ แต่ก็ไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไร ความสามารถบางอย่างก็แทบไม่ได้ใช้เลย เช่นยิงไอ้ลูกกลมๆไปหยุดเวลา เอาเข้าจริงก็ใช้แค่ หยุดพัดลม หยุดประตูไม่ให้ปิดก่อนเราจะออกไปแค่นั้นเอง
นางเอกของเรา ถ้าดูเครดิตถึงตอนจบ นางเอกจะว่ายน้ำขึ้นมาจดอะไรบางอย่างลงในสมุด แล้วก็จบ สรุปแล้วเกมส์นี้ ถ้าเล่นแบบไม่คิดอะไรก็สนุกใช้ได้ เอกเฟกบางอย่างโอเค อย่างให้เราบังคับลูกปืนให้เลี้ยวหาเป้าหมายได้ แต่ถ้าชอบเนื้อเรื่องแบบเปิดกว้าง อาจจะอึดอัดอยู่บ้างในความเป็นเส้นตรงของเกมส์
than
เห็นด้วยครับ เกมนี้เป็นเส้นตรงมากๆ เหมาะสำหรับคนชอบแนวนี้ฮะ ถ้าชอบแนว sandbox ก็คงต้อง Fallout 3, Prototype, Just Cause 2 ฮะ 😀
Apocalype
ถ้าคุณไม่ชอบแล้วคุณอ่านทำไมล่ะครับ
คุณพูดอย่างนี้คนทำเค้าเสียกำลังใจนะครับ
Puiiii
เป็นเกมที่ดีเกมนึงครับ ถ้าคุณอ่าน และ ฟังออก สำเนียงที่ใช้ในเกมอาจจะเพี้ยน ๆ ไปหน่อยก็เถอะ
โดยรวม สนุกดีครับ แต่ผิดหวังตอนจบจริง ๆ ไม่มีบอส
เฮ้อออออออออออ!!
koong
ตอนเข้าโบสถ์ไปแล้ว
koong
ตอนเข้าโบสถ์ไปแล้วประตุปิดเดินไปเลื่อยๆมีไม้ปิดอยู่ในเกมเขาบอกให้กดเลข3กับเม้าส์ทำแล้วแต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
than
น่าจะหมายถึงให้คลิ๊กกลางนะฮะ
koong
ใครก็ได้ช่วยตอบคำถามkoongทีสิคะ